6 องค์กรค้านกม.เศรษฐกิจดิจิทัล หวั่นกระทบสิทธิเสรีภาพ
เครือข่ายภาคประชาสังคม 6 องค์กร ค้านร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล 8 ฉบับ คาดเอื้อความมั่นคง
วันนี้ (14 ม.ค.) เครือข่ายภาคประชาสังคม 6 องค์กร ได้แก่ เครือข่ายพลเมืองเน็ต สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย มูลนิธิโลกสีเขียว FTA Watch กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน มูลนิธิเพื่อการศึกษาของชุมชน และสถาบันพัฒนาสื่อภาคประชาชน แถลงค้านร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล 8 ฉบับ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วและกำลังจะเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยเห็นว่าชุดกฎหมายดังกล่าวละเมิดสิทธิเสรีภาพในหลายด้าน ผูกขาดทรัพยากร และไม่ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งนี้เป็นการใช้ข้ออ้างเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงของรัฐ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนออกมาในร่างกฎหมายที่ให้อำนาจภาครัฐมากขึ้นในการจัดสรรทรัพยากร สัดส่วนของคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ตัดกรรมการด้านสิทธิเสรีภาพและผู้แทนภาคประชาชนออกไปและแทนที่ด้วยกรรมการจากฝ่ายความมั่นคง การไม่พูดถึงการคุ้มครองผู้บริโภค การรับประกันการเข้าถึงโดยผู้ด้อยโอกาสในสังคม และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนอีกต่อไป อีกทั้งไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องการตรวจสอบการใช้อำนาจขององค์กรกำกับ แต่กลับสร้างองค์กรที่อาจมีปัญหาแบบเดียวกันเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนี้ กระบวนการเสนอกฎหมายยังทำไปด้วยความรวบรัด ขาดการมีส่วนร่วมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
- ชุดกฎหมายเหล่านี้โดยเนื้อแท้ ไม่ใช่กฎหมาย “เศรษฐกิจดิจิทัล” แต่เป็นชุดกฎหมายความมั่นคง
- เนื้อหาในร่างพ.ร.บ.กสทช. เป็นการถือโอกาสดึงคลื่นความถี่กลับมาอยู่ในมือภาครัฐและกองทัพ ซึ่งจะกลับไปเหมือนในสมัยก่อนรัฐธรรมนูญปี 2540 กฎหมายชุดนี้ทำลายหลักการที่ว่าคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ และทำลายกลไกการแข่งขันเสรีเป็นธรรม จนกล่าวได้ว่าเป็นกฏหมายเพื่อ “เศรษฐกิจและกองทัพ”
- ร่างพ.ร.บ.กสทช.ทำลายความเป็นองค์กรอิสระของกสทช.
- ที่ผ่านมาภาคประชาชนเห็นร่วมกันว่ากสทช.จำเป็นต้องพัฒนาระบบธรรมาภิบาลให้ดีขึ้น ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณและการใช้อำนาจ แต่ร่างพ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ไม่ได้แก้ปัญหาดังกล่าว และยังมีร่างกฎหมายใหม่อีกหลายฉบับที่จะสร้างหน่วยงานที่มีโครงสร้างงบประมาณและการบริหารลักษณะคล้ายกันขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
- กองทุนที่มาจากรายได้ของกสทช. ถูกเปลี่ยนวัตถุประสงค์ไปจากเดิมเป็นอย่างมาก วัตถุประสงค์เดิมในการเป็นกองทุนวิจัยพัฒนาเพื่อประโยชน์สาธารณะ ส่งเสริมคุ้มครองผู้บริโภค ส่งเสริมผู้ประกอบกิจการบริการชุมชน ส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อของผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และส่งเสริมจริยธรรมการประกอบวิชาชีพ ได้หายไปหมด และกลายสภาพเป็นกองทุนเพื่อให้รัฐและเอกชนกู้ยืม
- ร่างกฎหมายหลายฉบับ ไม่ส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างที่อ้าง อีกทั้งคุกคามเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในความเป็นส่วนตัวที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และกระทบการประกอบธุรกิจด้านข้อมูลข่าวสาร
- ร่างกฎหมายทั้งหมดขาดกลไกคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและสิทธิผู้บริโภคที่ชัดเจน อีกทั้งสัดส่วนของคณะกรรมการชุดต่างๆ ก็ไม่มีการรับประกันสัดส่วนจากผู้แทนด้านที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นชัดที่สุดคือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีการตัดกรรมการด้านสิทธิและผู้บริโภคออกไป 3 ตำแหน่ง และเพิ่มกรรมการด้านความมั่นคงเข้ามา 2 ตำแหน่ง
- ความไม่ชัดเจนของสถานะทางกฎหมายของหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเป็น “หน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล และไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ” ว่าสำนักงานและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานจะมีความรับผิดตามกฎหมายอย่างไร มีกลไกร้องเรียนตรวจสอบได้ทางไหน
นายอาทิตย์ สุริยวงศ์กุล ผู้ประสานเครือข่ายพลเมืองเน็ต เผยว่า เครือข่ายเตรียมยืนหนังสือต่อ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก) และคณะกรรมการกฤษฎีกา ค้านการออกกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัลทั้ง 8 ฉบับ โดยเร็วที่สุด เบื้องต้นจะยื่น สปช.ภายในสัปดาห์นี้เพื่อนำเข้าพิจารณาในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :
|